วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2557

3.2 เครือข่ายการเรียนรู้

          ความหมายของเครือข่ายการเรียนรู้ คือ การเรียนรู้ในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ประกอบกิจกรรมทางการศึกษาของมนุษย์ ตั้งแต่นักเรียนจนไปถึงการทำงาน
โดยมีองค์ประกอบสำคัญคือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โปรแกรมที่ใช้ควบคุมระบบ การทำงาน และเครือข่ายการสื่อสาร นอกจากนี้การเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละคนยังแตกต่างกันออกไป ตามความสามารถในการสื่อสาร ของตัวผู้เรียนเอง และสภาวะแวดล้อมในการเชื่อมโยงข้อมูลอีกด้วย

          ดังนั้นเครือข่ายการเรียนรู้ (Learning Network) จึงหมายถึง การแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด ข้อมูลข่าวสาร ประสบการณ์ และการเรียนรู้ระหว่างบุคคล กลุ่มบุคคล องค์การ และแหล่งความรู้ที่มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง จนเป็นระบบที่เชื่อมโยงกัน ส่งผลให้เกิดการเผยแพร่และการประยุกต์ความรู้ใหม่ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาชีพหรือทางสังคม

แนวความคิด
          การเรียนรู้เป็นกระบบวนการที่ผู้เรียนต้องเป็นผู้จัดกระทำต่อสิ่งเร้าหรือสาระการเรียนรู้ มิใช่เพียงรับสิ่งเร้าหรือสาระเข้ามาเท่านั้น ผู้เรียนต้องเป็นผู้สร้างความมายของสิ่งเร้า หรือข้อความความรู้ ที่รับเข้ามาด้วยตนเอง กระบวนการสร้างความหมายของสิ่งเร้าที่รับเข้ามาที่เป็นประสบการณ์เฉพาะตน (Personal experience) ซึ่งมีความแตกต่างกันและมีกระบวนการคิดที่แตกต่างกัน ดังนั้น การเรียนรู้ของบุคคลจึงเป็นกระบวนการที่แต่ละบุคคลต้องดำเนินการเอง เพราะกระบวนการสร้างความหมายเป็นกระบวนการเฉพาะตน

หลักสำคัญของเครือข่ายการเรียนรู้
          การเรียนรู้ตลอดชีวิตควรเริ่มจากการมีส่วนร่วมของบุคคล องค์กรและชุมชนในการตระหนักถึงปัญหาและการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการสร้างเสริมประสบการณ์ การถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกัน จนทำให้เกิดการเรียนรู้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ได้สรุปหลักการสำคัญของเครือข่ายการเรียนรู้ไว้ ดังนี้

          1.การกระตุ้นความคิด ความใฝ่แสวงหาความรู้ จิตสำนึกในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น และการมีส่วนร่วมในการพัฒนา
          2.การถ่ายทอด แลกเปลี่ยน การกระจายความรู้ทั้งในส่วนของวิทยากรสากลและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ
          3.การแลกเปลี่ยนข่าวสารกับหน่วยงานต่างๆ ของทั้งในภาครัฐและเอกชน
          4.การระดมและประสานการใช้ทรัพยากรร่วมกัน เพื่อการพัฒนาและลดความซ้ำซ้อน สูญเปล่าให้มากที่สุด

          การเรียนรู้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์มากขึ้นสำหรับบุคคลและความเจริญของชาติ ด้วยการเรียนรู้เป็นสื่อเชื่อมโยงกับข้อมูลข่าวสาร องค์ความรู้และทักษะซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่ การเรียนรู้ที่ประสบความสำเร็จก็คือ การที่แต่ละบุคคลสามารถประยุกต์ใช้เครื่องมือ ข้อมูลข่าวสารและองค์ความรู้ที่เหมาะสม เพื่อแก้ปัญหา และแสวงหาโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต ส่วนเครือข่ายการเรียนรู้ก็เป็นกระบวนการที่สำคัญในการพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิต เครือข่ายเป็นระบบการเชื่อมโยงระหว่างบุคคล หน่วยงาน องค์กร สถาบันเข้าด้วยกัน ทำให้สามารถแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด ข้อมูลข่าวสาร ทรัพยากร ตลอดจนส่งเสริมการภารกิจให้มีผลสำเร็จและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Source :
แหล่งที่มา 1 2educationinnovation
แหล่งที่มา 2 supoldee
แหล่งที่มา 3 Global Tesol College

3.1 แหล่งการเรียนรู้

          แหล่งเรียนรู้ คือ แหล่งข้อมูลข่าวสาร และประสบการณ์ ที่สนับสนุนส่งเสริมให้ผู้เรียนใฝ่เรียน ใฝ่รู้ แสวงหาความรู้และเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างกว้างขวาง เพื่อเสริมสร้างให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้ และเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้

          ซึ่งแหล่งเรียนรู้นั้น...อาจเป็นสภาพ สถานที่ หรือศูนย์รวมที่ประกอบด้วย ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ และกิจกรรมที่มีกระบวนการเรียนรู้ หรือกระบวนการเรียนการสอน ที่มีรูปแบบแตกต่างจากกระบวนการเรียนการสอนที่มีครูเป็นผู้สอน หรือศูนย์กลางการเรียนรู้ เป็นการเรียนรู้ที่มีกำหนดเวลาเรียนยืดหยุ่น สอดคล้องกับความต้องการและความพร้อมของผู้เรียน การประเมินและการวัดผลการเรียนมีลักษณะเฉพาะที่สร้างขึ้นให้เหมาะสมกับการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่จำเ็ป็นต้องเป็นรูปแบบเดียวกันกับการประเมินผลในชั้นหรือห้องเรียน


Source :
แหล่งที่มา 1 โรงเรียนนวมินทราชูทิศ
แหล่งที่มา 2 โรงเรียนสุราษฏร์ธานี
แหล่งที่มา 3 GotoKnow

9 Emerging Educational Technologies

9 Emerging Educational Technologies

Emerging ในความหมายตามดิกชันนารี มีความหมายว่า "อุบัติใหม่" หรือ "เกิดใหม่"
ดังนั้น...Emerging Educational Technologies จึงหมายถึง "เทคโนโลยีใหม่ทางการศึกษา"

ซึ่งมีทั้งหมด 9 แบบด้วยกัน ได้แก่

9 Emerging Educational Technologies

1. Cloud Computing : ระบบประมวลผลที่จะจัดสรรข้อมูลให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่เรามีเครื่องคอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ต
2. Mobile Learning : การเรียนการสอนผ่านเทคโนโลยีไร้สายหรือ Wireless
3. Tablet Computing : เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีหน้าจอสัมผัสแทนการใช้เมาส์หรือคีย์บอร์ด
4. MOOCs : Massive Open Online Courses หรือการเรียนการสอนออนไลน์
5. Open Content : เป็นการเปิดเผยเนื้อหาอย่างกว้างขวาง ที่ผู้อื่นสามารถคัดลอก หรือแก้ไขบทความได้อย่างอิสระเสรี ยกตัวอย่างเช่นเว็บไซต์ Wikipedia
6. Games and Gamification : คือ App สำหรับการสร้างเกม ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับการตลาดออนไลน์ ที่ใช้เกมหรือรางวัลต่างๆ ในการจูงใจผู้เล่น ซึ่งเป็นการประยุกต์แนวคิดแบบเกมมาใช้กับสิ่งที่ไม่ใช่เกม เช่นการเรียนการสอน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ
7. 3D Printer : เครื่องพิมพ์แบบ3มิติ
8. Virtual and Remote Laboratories : การเรียนรู้ระยะไกล ที่ผู้ใช้สามารถทำการทดลองหรือเรียนรู้ผ่านทางอินเตอร์เน็ตโดยไม่ต้องอยู่ใกล้กับอุปกรณ์จริง
9. Wearable Technology : เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่สามารถสวมใส่ได้ เช่น แว่นตา Google Glass

จากนี้ไปจะขอลงรายละเอียด 4 หัวข้อที่เจ้าของบล็อคสนใจนะคะ (ฮา)

1. Mobile Learning
     Mobile Learning  หรือที่เรียกกันย่อๆ ว่า M-Learning เป็นการเรียนการสอนผ่านเทคโนโลยีไร้สาย หรือที่เรียกว่า Wireless ซึ่งผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์ หรือสาย LAN ในการเชื่อมต่อ เพียงแค่มีอุปกรณ์รับสัญญาณ และสัญญาณ Wireless เท่านั้น
      และอุปกรณ์ที่เหมาะสมที่สุดก็เห็นจะเป็น โทรศัพท์มือถือ Mobile Phone ซึ่งเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่เป็นปัจจัยอย่างหนึ่งในชีวิตประจำวัน และปัจจุบันโทรศัพท์มือถือก็ได้เปลี่ยนมาอยู่ในรูปแบบของ Smart Phone ที่เป็นระบบจอสัมผัส มีหน้าจอที่กว้างมากขึ้น ทำให้สามารถค้นหาข้อมูล หรืออ่านข้อมูลผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือได้อย่างสะดวกมากขึ้น เนื่องจากโทรศัพท์มือถือมีราคาถูกกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ค และง่ายต่อการพกพา
      แต่เทคโนโลยีชนิดนี้ก็มีข้อเสียตรงที่ว่า หน้าจอโทรศัพท์มีขนาดเล็ก อาจทำให้ไม่สามารถเห็นเนื้อหาหรือรูปภาพอย่างชัดเจน รวมถึงข้อจำกัดในการดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ

Source :
แหล่งที่มา 1 Blookings
แหล่งที่มา 2 Gooplata
แหล่งที่มา 3 Wikipedia

2. Tablet Computing
     Tablet Computing เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดกลางที่มีหน้าจอแบบสัมผัสแทนการใช้เมาส์หรือคีย์บอร์ด ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายเช่นเดียวกับโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟน แต่จะมีหน้าจอที่ใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือและพกพาง่ายกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์
     ในวงการศึกษามีการทำ Tablet มาใช้ในการเรียนการสอน เพราะว่าสื่อมัลติมิเดียมีความน่าสนใจมากกว่าหนังสือเรียนธรรมดา เพราะมีทั้งภาพและเสียงเป็นสิ่งที่จะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมการเรียนรู้ อีกทั้งยังมีลูกเล่นต่างๆ มากมาย เช่น เกม หรือแบบฝึกหัดต่างๆ ที่จะช่วยพัฒนาทักษะของเด็กนักเรียน

Source :
แหล่งที่มา 1 Wikipedia
แหล่งที่มา 2 Education Techonology Debate
แหล่งที่มา 3 Tablet D

3. 3D Printer
     3D Printer เป็นความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี ซึ่งมีการทำงานเหมือนเครื่องปริ้นส์เตอร์ทั่วๆ ไป ที่รับคำสั่งจากเครื่องคอมพิวเตอร์ ผ่านการประมวลผล และแสดงผลออกมาบนหน้ากระดาษ แต่ทว่าผลงานหรือชิ้นงานที่ได้จาก 3D Printer หรือเครื่องปริ้นส์ 3มิติ จะมีรูปชิ้นงานเสมือนจริง หรือออกมาในรูปแบบของโมเดล โดยที่เราไม่ต้องเสียเวลาปั้นโมเดลดังกล่าวด้วยตัวเอง
     ซึ่งกระบวนการพิมพ์นั้นจะเกิดจากสร้างวัสดุของแข็งด้วยคำสั่งดิจิตัล โดยจะมีการสร้างเป็นชั้นๆ จนเกิดเป็นรูปร่างในที่สุด

Source :
แหล่งที่มา 1 Wikipedia
แหล่งที่มา 2 3D Printing
แหล่งที่มา 3 Maximumdev


4. Virtual and Remote Laboratories
     Virtual and Remote Laboratories เป็นการเรียนรู้เสมือนจริง ที่ผู้เรียนสามารถเรียนผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางไปเรียนที่สถาบันต่างๆ  ซึ่งการเรียนแบบนี้ ห้องเรียนดังกล่าวจะมีลักษณะการจำลองบรรยากาศในห้องเรียนที่เสมือนจริง หรือมีการทดลองโดยอาศัยการสั่งคำสั่งผ่านทางอุปกรณ์ตัวกลาง หรือเรียนผ่านหน้าเว็บแคมของห้องเรียนเสมือนจริงดังกล่าว ซึ่งมีทั้งความสะดวกสบายและความปลอดภัย อีกทั้งผู้เรียนสามารถเรียนผ่านห้องเรียนเสมือนจริงได้ทุกที่ทุกเวลา

แหล่งที่มา 1 Wikipedia
แหล่งที่มา 2 Remote Laboratories
แหล่งที่มา 3 Horizon Project


และรายละเอียดของเทคโนโลยีทางการศึกษาแบบอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ

     Cloud Computing ระบบประมวลผลที่จะจัดสรรข้อมูลให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่เรามีเครื่องคอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ต หรือที่เรียกว่า "ระบบประมวลผลแบบก้อนเมฆ" หรือเป็นการรวบรวมทรัพยากรต่างๆ มารวมกันเพื่อรองรับกับความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งเมื่อผู้ใช้เรียกหาข้อมูลที่ต้องการ ส่วนกลางของระบบนี้ก็จะทำการจัดสรรข้อมูลมาให้ตามความต้องการของผู้ใช้ทันที

แหล่งที่มา Compsport

     MOOCs ย่อมากจาก Massive Open Online Courses คือการเรียนการสอนผ่านทางระบบออนไลน์ ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ ซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย และมีผู้เข้าถึงข้อมูลเป็นจำนวนมาก
     มีความแตกต่างจาก e-learning ตรงที่ว่า e-learning จะเป็นเครือข่ายแบบจำกัด แต่ MOOCs นั้น ผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทั่วทุกมุมของโลก ในคล้ายกับการเรียนผ่านเว็บไซต์อย่าง YouTube แต่ MOOCs นั้นผู้เรียนสามารถทำการโต้ตอบกับผู้สอนได้ทันที

แหล่งที่มา elearning108