Emerging ในความหมายตามดิกชันนารี มีความหมายว่า "อุบัติใหม่" หรือ "เกิดใหม่"
ดังนั้น...Emerging Educational Technologies จึงหมายถึง "เทคโนโลยีใหม่ทางการศึกษา"
ซึ่งมีทั้งหมด 9 แบบด้วยกัน ได้แก่
9 Emerging Educational Technologies
1. Cloud Computing : ระบบประมวลผลที่จะจัดสรรข้อมูลให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่เรามีเครื่องคอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ต
2. Mobile Learning : การเรียนการสอนผ่านเทคโนโลยีไร้สายหรือ Wireless
3. Tablet Computing : เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีหน้าจอสัมผัสแทนการใช้เมาส์หรือคีย์บอร์ด
4. MOOCs : Massive Open Online Courses หรือการเรียนการสอนออนไลน์
5. Open Content : เป็นการเปิดเผยเนื้อหาอย่างกว้างขวาง ที่ผู้อื่นสามารถคัดลอก หรือแก้ไขบทความได้อย่างอิสระเสรี ยกตัวอย่างเช่นเว็บไซต์ Wikipedia
6. Games and Gamification : คือ App สำหรับการสร้างเกม ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับการตลาดออนไลน์ ที่ใช้เกมหรือรางวัลต่างๆ ในการจูงใจผู้เล่น ซึ่งเป็นการประยุกต์แนวคิดแบบเกมมาใช้กับสิ่งที่ไม่ใช่เกม เช่นการเรียนการสอน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ
7. 3D Printer : เครื่องพิมพ์แบบ3มิติ
8. Virtual and Remote Laboratories : การเรียนรู้ระยะไกล ที่ผู้ใช้สามารถทำการทดลองหรือเรียนรู้ผ่านทางอินเตอร์เน็ตโดยไม่ต้องอยู่ใกล้กับอุปกรณ์จริง
9. Wearable Technology : เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่สามารถสวมใส่ได้ เช่น แว่นตา Google Glass
จากนี้ไปจะขอลงรายละเอียด 4 หัวข้อที่เจ้าของบล็อคสนใจนะคะ (ฮา)
1. Mobile Learning
Mobile Learning หรือที่เรียกกันย่อๆ ว่า M-Learning เป็นการเรียนการสอนผ่านเทคโนโลยีไร้สาย หรือที่เรียกว่า Wireless ซึ่งผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์ หรือสาย LAN ในการเชื่อมต่อ เพียงแค่มีอุปกรณ์รับสัญญาณ และสัญญาณ Wireless เท่านั้น
และอุปกรณ์ที่เหมาะสมที่สุดก็เห็นจะเป็น โทรศัพท์มือถือ Mobile Phone ซึ่งเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่เป็นปัจจัยอย่างหนึ่งในชีวิตประจำวัน และปัจจุบันโทรศัพท์มือถือก็ได้เปลี่ยนมาอยู่ในรูปแบบของ Smart Phone ที่เป็นระบบจอสัมผัส มีหน้าจอที่กว้างมากขึ้น ทำให้สามารถค้นหาข้อมูล หรืออ่านข้อมูลผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือได้อย่างสะดวกมากขึ้น เนื่องจากโทรศัพท์มือถือมีราคาถูกกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ค และง่ายต่อการพกพา
แต่เทคโนโลยีชนิดนี้ก็มีข้อเสียตรงที่ว่า หน้าจอโทรศัพท์มีขนาดเล็ก อาจทำให้ไม่สามารถเห็นเนื้อหาหรือรูปภาพอย่างชัดเจน รวมถึงข้อจำกัดในการดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ
Source :
แหล่งที่มา 1 Blookings
แหล่งที่มา 2 Gooplata
แหล่งที่มา 3 Wikipedia
2. Tablet Computing
Tablet Computing เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดกลางที่มีหน้าจอแบบสัมผัสแทนการใช้เมาส์หรือคีย์บอร์ด ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายเช่นเดียวกับโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟน แต่จะมีหน้าจอที่ใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือและพกพาง่ายกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์
ในวงการศึกษามีการทำ Tablet มาใช้ในการเรียนการสอน เพราะว่าสื่อมัลติมิเดียมีความน่าสนใจมากกว่าหนังสือเรียนธรรมดา เพราะมีทั้งภาพและเสียงเป็นสิ่งที่จะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมการเรียนรู้ อีกทั้งยังมีลูกเล่นต่างๆ มากมาย เช่น เกม หรือแบบฝึกหัดต่างๆ ที่จะช่วยพัฒนาทักษะของเด็กนักเรียน
Source :
แหล่งที่มา 1 Wikipedia
แหล่งที่มา 2 Education Techonology Debate
แหล่งที่มา 3 Tablet D
3. 3D Printer
3D Printer เป็นความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี ซึ่งมีการทำงานเหมือนเครื่องปริ้นส์เตอร์ทั่วๆ ไป ที่รับคำสั่งจากเครื่องคอมพิวเตอร์ ผ่านการประมวลผล และแสดงผลออกมาบนหน้ากระดาษ แต่ทว่าผลงานหรือชิ้นงานที่ได้จาก 3D Printer หรือเครื่องปริ้นส์ 3มิติ จะมีรูปชิ้นงานเสมือนจริง หรือออกมาในรูปแบบของโมเดล โดยที่เราไม่ต้องเสียเวลาปั้นโมเดลดังกล่าวด้วยตัวเอง
ซึ่งกระบวนการพิมพ์นั้นจะเกิดจากสร้างวัสดุของแข็งด้วยคำสั่งดิจิตัล โดยจะมีการสร้างเป็นชั้นๆ จนเกิดเป็นรูปร่างในที่สุด
Source :
แหล่งที่มา 1 Wikipedia
แหล่งที่มา 2 3D Printing
แหล่งที่มา 3 Maximumdev
4. Virtual and Remote Laboratories
Virtual and Remote Laboratories เป็นการเรียนรู้เสมือนจริง ที่ผู้เรียนสามารถเรียนผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางไปเรียนที่สถาบันต่างๆ ซึ่งการเรียนแบบนี้ ห้องเรียนดังกล่าวจะมีลักษณะการจำลองบรรยากาศในห้องเรียนที่เสมือนจริง หรือมีการทดลองโดยอาศัยการสั่งคำสั่งผ่านทางอุปกรณ์ตัวกลาง หรือเรียนผ่านหน้าเว็บแคมของห้องเรียนเสมือนจริงดังกล่าว ซึ่งมีทั้งความสะดวกสบายและความปลอดภัย อีกทั้งผู้เรียนสามารถเรียนผ่านห้องเรียนเสมือนจริงได้ทุกที่ทุกเวลา
แหล่งที่มา 1 Wikipedia
แหล่งที่มา 2 Remote Laboratories
แหล่งที่มา 3 Horizon Project
และรายละเอียดของเทคโนโลยีทางการศึกษาแบบอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ
Cloud Computing ระบบประมวลผลที่จะจัดสรรข้อมูลให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่เรามีเครื่องคอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ต หรือที่เรียกว่า "ระบบประมวลผลแบบก้อนเมฆ" หรือเป็นการรวบรวมทรัพยากรต่างๆ มารวมกันเพื่อรองรับกับความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งเมื่อผู้ใช้เรียกหาข้อมูลที่ต้องการ ส่วนกลางของระบบนี้ก็จะทำการจัดสรรข้อมูลมาให้ตามความต้องการของผู้ใช้ทันที
แหล่งที่มา Compsport
MOOCs ย่อมากจาก Massive Open Online Courses คือการเรียนการสอนผ่านทางระบบออนไลน์ ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ ซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย และมีผู้เข้าถึงข้อมูลเป็นจำนวนมาก
มีความแตกต่างจาก e-learning ตรงที่ว่า e-learning จะเป็นเครือข่ายแบบจำกัด แต่ MOOCs นั้น ผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทั่วทุกมุมของโลก ในคล้ายกับการเรียนผ่านเว็บไซต์อย่าง YouTube แต่ MOOCs นั้นผู้เรียนสามารถทำการโต้ตอบกับผู้สอนได้ทันที
แหล่งที่มา elearning108
Cloud Computing ระบบประมวลผลที่จะจัดสรรข้อมูลให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่เรามีเครื่องคอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ต หรือที่เรียกว่า "ระบบประมวลผลแบบก้อนเมฆ" หรือเป็นการรวบรวมทรัพยากรต่างๆ มารวมกันเพื่อรองรับกับความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งเมื่อผู้ใช้เรียกหาข้อมูลที่ต้องการ ส่วนกลางของระบบนี้ก็จะทำการจัดสรรข้อมูลมาให้ตามความต้องการของผู้ใช้ทันที
แหล่งที่มา Compsport
MOOCs ย่อมากจาก Massive Open Online Courses คือการเรียนการสอนผ่านทางระบบออนไลน์ ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ ซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย และมีผู้เข้าถึงข้อมูลเป็นจำนวนมาก
มีความแตกต่างจาก e-learning ตรงที่ว่า e-learning จะเป็นเครือข่ายแบบจำกัด แต่ MOOCs นั้น ผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทั่วทุกมุมของโลก ในคล้ายกับการเรียนผ่านเว็บไซต์อย่าง YouTube แต่ MOOCs นั้นผู้เรียนสามารถทำการโต้ตอบกับผู้สอนได้ทันที
แหล่งที่มา elearning108
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น